แต่งบ้านยุคใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยสไตล์ Eco House
สร้างเมื่อ Aug 30, 2022
เมื่อเทรนด์รักษ์โลกกำลังมาแรงหลายคนอาจจะเริ่มขยับไลฟ์สไตล์เพื่อให้เข้ากับเทรนด์มากขึ้น ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการแต่งบ้านนั่นเองค่ะ น้อง Genie เองก็เป็นหนึ่งในหลายๆคนที่อยากจะเปลี่ยนบ้านของตัวเองให้ดูเป็นธรรมชาติ ประหยัดพลังงาน เพราะฉะนั้นวันนี้น้อง Genie จะมาแชร์ทริคเล็กๆ น้อยๆ ในการเปลี่ยนบ้านให้เป็นสไตล์ Eco House กันค่ะ ตามมาเลยย
1. Eco House คืออะไร
Eco House หรือ เรียกง่ายๆ ว่าบ้านรักษ์โลกนั่นเองค่ะ ซึ่งบ้านสไตล์นี้จะออกแบบโดยการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม หรือ ธรรมชาติเป็นหลัก แต่ก็ไม่ใช่จะล้าสมัยไปเลยทีเดียวนะคะ การออกแบบนั้นจะต้องสามารถมิกซ์รวมกับรูปแบบนวัตกรรมสมัยใหม่ เช่น การประหยัดพลังงาน การลดความร้อนภายในบ้าน หรือแม้กระทั่งลดการเกิดมลพิษต่างๆนั่นเองค่ะ
และอย่างที่เราทราบกันดีนะคะว่าในปัจจุบันนี้นั้นโลกเราได้เผชิญปัญหาภาวะโลกร้อน และ ปัญหาธรรมชาติที่หนักมากขึ้นทุกปี เพราะฉะนั้นหากเรามีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่าง เช่นการประหยัดพลังงานธรรมชาติ ลดการทำให้เกิดมลภาวะกลับเข้าสู่ระบบนิเวศให้น้อยที่สุด เท่านี้เราก็จะกลายเป็นคนหนึ่งที่ช่วยให้ธรรมชาติของเราอยู่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น และแน่นอนค่ะสิ่งนั้นมันจะผลดีต่อเราแล้วก็โลกของเราอย่างแน่นอนค่ะ
อย่างที่กล่าวไปแล้วนะคะว่า Eco House คือการเปลี่ยนบ้านของเราให้ดูธรรมชาติมากที่สุด เพื่อนๆ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหน เปลี่ยนแล้วจะเข้ากับอุณหภูมิของประเทศเราไหม วันนี้น้อง Genie ตอบตรงนี้เลยว่าเข้าสุดๆ ค่ะเนื่องจากประเทศไทยเราเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนมากๆ ด้วยหลักการของ Eco House นั้นจะช่วยลดอุณหภูมิของตัวบ้าน ระบายอากาศ ได้ใกล้ชิดธรรมชาติสุด และที่สำคัญยังช่วยเพิ่มความเย็นให้กับบ้านของเราอีกด้วยค่ะ
ซึ่งวิธีที่จะเปลี่ยนบ้านธรรมดาๆ ให้กลายเป็นสไตล์ Eco House นั้นง่ายนิดเดียวค่ะ เพื่อนสามารถทำตามได้ใน 5 ขั้นตอนดังนี้ค่ะ
2. ขั้นตอนในการเปลี่ยนบ้านให้เป็นสไตล์ Eco House
1. การเลือกวัสดุ
สำหรับขั้นตอนแรกนะคะ คือการเลือกวัสดุก่อสร้างนั่นเองค่ะ เนื่องด้วยสภาพอากาศในประเทศไทยที่ค่อนข้างร้อนการเลือกวัสดุก่อสร้างนั้นนอกจากจะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้ที่อาศัยอยู่เช่นเดียวกันค่ะ
1.1. หลังคากันความร้อน
เรียกได้ว่าสิ่งนี้เป็นส่วนสำคัญของบ้านเลยก็ว่าได้นะคะ เพราะในส่วนของหลังคาบ้านนั้นจะเป็นส่วนแรกที่ต้องรองรับแสงแดด และ ความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ดังนั้นการเลือกหลังคาจึงต้องเลือกที่สามารถกันความร้อนได้ดีเลยนะคะ
น้อง Genie ยกตัวอย่างเช่น หลังคากระเบื้องทรงสูงแบบลอน แบบนี้จะช่วยกันความร้อน และ สะท้อนแสงได้ดี หรือจะเลือกเป็น หลังคาประเภทเมทัลชีทติดฉนวน ซึ่งจะช่วยบรรเทาไม่ให้ความร้อนถูกส่งเข้ามายังตัวบ้านโดยตรงนั่นเองค่ะ
1.2. ฉนวนกันความร้อน
สำหรับฉนวนกันความร้อนนะคะ จะเป็นตัวช่วยป้องกันความร้อนบริเวณใต้หลังคา จะช่วยไม่ให้ความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้นั่นเองค่ะ วัสดุชนิดนี้สามารถช่วยประหยัดพลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆภายในบ้านได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องปรับอากาศ และ พัดลม
ตัวของฉนวนกันความร้อนนั้นมีให้เพื่อนๆ เลือกหลายแบบมากค่ะ แต่ที่เป็นที่นิยมสุดๆ จะเป็นแบบแผ่นค่ะเพราะสามารถดัด โค้ง งอ ให้เข้ากับหลังคา หรือ ตามโครงสร้างของตัวบ้านได้เป็นอย่างดีนั่นเองค่ะ
1.3. ฝ้าชายคาระบายอากาศ
สำหรับฝ้าชายคาระบายอากาศนะคะ นอกจากจะช่วยให้บ้านของเราดูสวยงามแล้ว ยังเป็นตัวช่วยในเรื่องของการลดความร้อนภายในโถงใต้หลังคาอีกด้วยค่ะ
2. เลือกใช้พลังงานที่สะอาด
สำหรับการเลือกใช้พลังงานที่สะอาดนั้นจะคงคอนเซปต์ของ Eco House เลยค่ะ เนื่องจากว่าพลังงานดังกล่าวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อให้เกิดมลพิษที่ทำลายธรรมชาติ อีกทั้งการที่เราใช้พลังงานที่สะอาดยังสามารถช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายจิปาถะได้เยอะมากๆ เลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
2.1. พลังงานแสงอาทิตย์
ในการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์เซลล์นะคะ ได้รับความนิยมมาสักพักหนึ่งแล้ว เนื่องจากว่าเป็นพลังงานที่สะอาด ช่วยลดภาวะโลกร้อน และช่วยลดค่าไฟในแต่ละเดือนได้สูงมากๆ ซึ่งเราจะเห็นได้จากโครงการบ้านอสังหาริมทรัพย์ เริ่มหันมาออกแบบบ้านพร้อมติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์กันมากขึ้น เช่น AP Thai, Sansiri, Supalai, SENA SOLAR เป็นต้นค่ะ
2.2. ระบบ Smart Solar Fresh Air System
สำหรับระบบ Smart Solar Fresh Air System นะคะเป็นนวัตกรรมของการอยู่อาศัยแบบยุคสมัยใหม่ ซึ่งการทำงานของเจ้าตัวนี้ก็คือ จะทำหน้าดูดความร้อนภายในบ้าน เพื่อช่วยให้อุณหภูมิภายในห้องลดลง หรือ ทำให้ห้องมีอากาศเย็นสบายนั้นเองค่ะ สอดคล้องกับหลักของ Eco House มากๆ เลยค่ะ
3. ระบบ Smart Home
สำหรับวิธีต่อมานะคะ เป็นการเลือกใช้ระบบอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
3.1. Lighting Control
เป็นระบบควบคุมการปิด - เปิดไฟ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ภายในบ้านตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ผ่านแอปพลิเคชันมือถือนั่นเองค่ะ ระบบนี้ควบคุมง่าย สามารถช่วยจับความเคลื่อนไหวและความสว่างภายในบ้านได้แบบอัตโนมัติ ที่สำคัญยังช่วยให้ผนังบ้านเรียบสะอาด ไม่มีสวิตซ์ หรือ สายไฟรกหูรกตาค่ะ
3.2. Automatic Sprinkle
เป็นระบบหัวกระจายน้ำอัตโนมัติ จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยประหยัดเวลา และ หมดกังวลว่าหากไม่อยู่บ้านต้นไม้จะเหี่ยวเฉา เนื่องจากว่าสามารถตั้งเวลารดน้ำต้นไม้ได้ ผ่านการควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน บนโทรศัพท์มือถือนั่นเองค่ะ
3.3. Temperature Controller
เป็นระบบที่สามารถควบคุมอุณหภูมิภายในบ้านได้ทั้งหมดเลยค่ะ เราสามารถควบคุมได้ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ จะเปิดแอร์ เปิดพัดลมก็สะดวกสุดๆ เป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยแบบ Smart Home ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
4. เลือกเครื่องใช้ที่ประหยัดพลังงาน
การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน จะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนไปได้มากโขเลยค่ะ ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานตามหลักของ Eco House นั้นนอกจากจะช่วยประหยัดทั้งเงินในกระเป๋าแล้วนั้น ยังช่วยประหยัดพลังงานรวมถึงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วยค่ะ
4.1. หลอดไฟ LED
สำหรับหลอดไฟ LED นะคะเป็นอีกหนึ่งการประหยัดพลังงานเบอร์ต้นๆ เลยเนื่องจากเป็นหลอดไฟที่กินไฟน้อยมาก แต่ประสิทธิภาพในการส่องสว่างสูง ทั้งยังไม่ปล่อยรังสี UV จึงทำให้ไม่กระจายความร้อนออกมา
ที่สำคัญยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่า 10 - 20 ปี โดยเฉลี่ยแล้วนั้นหลอดไฟประเภทนี้ประหยัดไฟกว่าหลอดธรรมดาได้ถึง 50 - 80% เลยทีเดียวค่ะ
4.2. เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากเบอร์ 5
แน่นอนค่ะว่าในสมัยเด็กๆ เราต้องเคยได้ยินประโยคที่พูดว่า “เบอร์ 5 ประหยัดไฟ” ใช่ไหมคะ ซึ่งจากการทดสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากเบอร์ 5 นั้นพบว่ามีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานตามมาตรฐานที่ กฟฝ. และทางกระทรวงพลังงานได้กำหนดไว้เลยค่ะ ข้อนี้เลยเป็นการการันตีว่าช่วยประหยัดค่าไฟ หรือ พลังงานได้นั่นเองค่ะ
5. ใช้เฟอร์นิเจอร์จากธรรมชาติ
อยากแต่งบ้านให้ดู อีโค่ อีโค่ หน่อยก็ต้องมีเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ ถูกต้องไหมคะ เนื่องจากว่าหากเราใช้เฟอร์นิเจอร์ หรือ ของแต่งบ้านที่มาจากพลาสติกนั้นนอกจากจะทำลายธรรมชาติแล้ว เวลาเฟอร์ฯเหล่านี้พัง หรือ ชำรุด ก็จะทำให้ย่อยสลายยากมากกว่าเดิมนั่นเองค่ะ
3. 2 แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เมื่อพูดถึงเทรนด์รักษ์โลก และ การแต่งบ้านก็ต้องนึกถึงเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยใช่ไหมคะ วันนี้น้อง Genie มี 2 แบรนด์ที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาฝากกันด้วยค่ะ จะมีแบรนด์ไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ
1. e-LITE solar jar
ขอบคุณภาพจาก homedeedee
เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้จะเป็นโคมไฟค่ะ ที่พิเศษก็คือจะเป็น ขวดโหลโคมไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์ เกิดจากความมุ่งมั่นของคุณฝน ณัชณิชา พลังวาณิชย์ และพาร์ทเนอร์ชาวแอฟริกาอีกหนึ่งคน ที่ต้องการจะนำเสนอความคิดแปลกใหม่ของโคมไฟตั้งโต๊ะรูปแบบเดิมๆ ให้เป็นความคิดในแบบฉบับของตนเอง โดยการเปลี่ยนการใช้พลังงานไฟฟ้า มาเป็นพลังงานแสงอาทิตย์แทน โดยที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและยังสร้างความสวยงามให้กับบ้านด้วยดีไซน์แสนน่ารักนั่นเองค่ะ
การใช้งานของ e-Lite Solar jar นั้นก็ไม่ยากค่ะ เพียงแค่ในช่วงเวลากลางวันที่แดดร้อนจัดก็นำขวดโหลออกมาให้สัมผัสกับแสงแดดเพื่อเป็นการชาร์จพลังงานโดยไม่ต้องเปิด Magnet Switch ปิดการทำงานของวงจรไฟเพื่อชาร์จแบตเตอรี่เข้าสู่แบตเตอรี่แบบ Rechargable ที่ใต้ฝาขวด โดยต้องสัมผัสกับแสงแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงเพียงเท่านี้ก็สามารถให้แสงสว่างต่อเนื่องได้ถึง 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 1 ครั้งแล้วค่ะ
2. THAS
ขอบคุณภาพจาก homedeedee
เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้เป็นผลิตภัณฑ์ Eco จากคุณพุฒิ พุฒิพงศ์ ทัศนมานะ ที่ได้ไอเดียจากหลากหลายที่มารวมกันจนเกิดเป็น การรีไซคลิ่ง ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งจุดเด่นของแบรนด์นี้นะคะ คือ กระบวนการ
อัพไซเคิล โดยการนำเศษวัสดุเหลือใช้ กลับมาทำเป็นของใช้ใหม่ให้มีมูลค่ามากขึ้น โดยไม่ต้องใช้พลังงานและกระบวนการทางเคมีใดๆ ซึ่งจะแตกต่างจากการรีไซเคิลแบบปกตินั่นเองค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะกับการปรับเปลี่ยนสไตล์บ้าน หรือคอนโดให้เป็นสไตล์ Eco House ส่วนตัวของน้อง Genie ได้มีโอกาสในการปรับเปลี่ยนบ้านตัวเองไปแล้วเช่นเดียวกันค่ะ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือความสบายตา ความสดชื่น ที่สำคัญในแต่ละเดือนนั้นน้อง Genie ประหยัดค่าไฟไปได้เยอะมากๆ เลยค่ะ
อย่างไรก็แล้วแต่น้อง Genie หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ได้ประโยชน์จากการแต่งบ้าน และ ช่วยให้เพื่อนๆ ประหยัดค่าไฟ และ ค่าใช้จ่ายเหมือนน้อง Genie นะคะ
เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังมองหาบ้าน หรือคอนโดที่สร้างเสร็จพร้อมตกแต่ง และสามารถเข้าอยู่ได้เลยไม่ควรพลาดเว็บไซต์นี้ค่ะ www.genie-property.com ตัวช่วยง่ายๆในรูปแบบ VR Tour ที่จะทำให้เพื่อนๆ ประหยัดเวลา แถมได้เห็นห้องจริง โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาออกไปดูหลายๆ ที่ เว็บนี้ตอบโจทย์เพื่อนๆ แน่นอนค่ะ
และเพื่อเป็นกำลังใจให้น้อง Genie เพื่อนๆ สามารถเข้ามาพูดคุย หรือกดติดตามข่าวสารดีๆเกี่ยวกับแวดวงอสังหาฯ และ ไลฟ์สไตล์กันได้ผ่านทางช่องทางด้านล่างนี้เลยค่าาา
LINE: @genie-property.com
FACEBOOK: Genie-Property.com
EMAIL: sales@genie-property.com
CALL CENTER: 093-232-9888,064-931-8666
Website : www.genie-property.com
แนะนำบทความที่น่าสนใจ
- เนรมิตบ้านเก่า ให้ใหม่ทันใจด้วย สินเชื่อ Renovate บ้าน
- เรื่องน่ารู้ ต่อเติมบ้านแบบไหนถูกกฎหมาย! ไม่ต้องขออนุญาต
- เปิดฤกษ์มงคลย้ายเข้าบ้านใหม่ มั่งคั่ง ร่ำรวย
ขอบคุณข้อมูลจาก