9 เมกะโปรเจค (Mega project) กรุงเทพฯ ปริมณฑล ปี 2562 - 2566
สร้างเมื่อ Nov 7, 2021
เล็กๆไม่ ใหญ่ๆ ทำ น่าจะเป็นสโลแกนของผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบรนด์ต่างๆ ของไทยไปซะแล้วหล่ะค่ะ ที่ต่างมีแผนการสร้างสรรผลงานผ่านสิ่งปลูกสร้าง อาคาร และสร้างอาณาจักรเมกะโปรเจค (mega project) ทรงพลังตามมุมเมืองต่างๆของกรุงเทพฯ เพื่อสนอง need คนไทยและต่างชาติ โดยหวังว่าจะเป็นพื้นที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศนั่นเอง
วันนี้ Genie จึงพาทุกคนมาอัพเดทกันค่ะว่า ปัจจุบันกรุงเทพฯ มีโครงการขนาดใหญ่ของเอกชน ตั้งอยู่บนทำเลไหนบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
9 เมกะโปรเจค (Mega project) กรุงเทพฯ ปริมณฑล ปี 2562 - 2566
1. Central Village สุวรรณภูมิ 3
2. The PARQ พระราม 4 ( ใกล้ MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ )
3. The Forestias ถนนบางนา-ตราด กม.7
4. ONE Bangkok ติดถ.พระราม 4 และวิทยุ
5. Mega City Bangna ถนนบางนา-ตราด และวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก
6. Bangkok Mall ถนนเทพรัตน สี่แยกบางนา
7. 101 True Digital Park ถนนสุขุมวิท 101/1
8. The Grand Rama 9 พระราม 9
9. Dusit Central Park ติดถนนพระราม 4 (ใกล้ MRT สถานีสีลม)
ข้อมูลโครงการ
1. Central Village สุวรรณภูมิ 3
ทำเล: ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ( ถนนสุวรรณภูมิ 3 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ )
มูลค่าการลงทุน: 5,000 ล้านบาท
เจ้าของโครงการ : บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
พื้นที่: ที่ดิน 100 ไร่ และเนรมิตพื้นที่ขายกว่า 40,000 ตร.ม.
สถานะ : เปิดให้บริการแล้ว (สิงหาคม 2562)
เวลา: เปิดทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ 11:00 - 21:00 น. และ เสาร์ - อาทิตย์ 10.00 - 22:00 น.
ที่จอดรถ : 2,700 คัน
เซ็นทรัล วิลเลจ เป็นโครงการพัฒนาศูนย์การค้ารูปแบบเปิดเป็น Outdoor Luxury Outlet ตัวอาคารได้รับการออกแบบต่อยอดจากศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ที่ผสมผสานการออกแบบทั้งรูปแบบศูนย์การค้าแบบเปิด (Outdoor) และศูนย์การค้าแบบปิด (Indoor) ออกแบบโดยใช้สถาปัตยกรรมแบบไทยร่วมสมัย
บนที่ดิน 100 ไร่ และพื้นที่ขายกว่า 40,000 ตร.ม. นี้ ประกอบด้วยโรงแรมมาตรฐานระดับโลก ร้านอาหาร จุดบริการนักท่องเที่ยว สนามเด็กเล่น พร้อมกับรถรับส่งไป-กลับจากสนามบินด้วยเวลาเพียง 10 นาที เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยว ประกอบด้วยศูนย์การค้าและโรงแรม ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Bangkok Luxury Outlet" เป็นสินค้าแบรนด์เนม ในราคาเอ้าท์เล็ตที่ลด 35-70% ทุกวันค่ะ มีทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศ ได้แก่ Westwood, CK Jeans, Adidas, Matter Makers, Converse, Roxy, Quiksilver, Guess, Samsonite และ G2000 เป็นต้น
2. The PARQ ( เดอะ ปาร์ค )
ทำเล: ติดถนนพระราม 4 และถนนรัชดาภิเษก ( เดิมเป็นที่จอดรถของศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ )
มูลค่าการลงทุน: 20,000 ล้านบาท
เจ้าของโครงการ : บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด
พื้นที่: 24 ไร่ พื้นที่อาคารรวม 320,000 ตารางเมตร
สถานะ : สร้างเสร็จปี 2563
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 น.- 20.00 น. ( จันทร์ - เสาร์ )
เป็นโครงการ mixed-use ใกล้ MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยภายในโครงการมี The PARQ Workplace และ The PARQ Life โดย
- The PARQ Workplace เป็นพื้นที่สำนักงาน ขนาดพื้นที่ต่อชั้น (Floor Plate) ซึ่งปราศจากเสาภายใน (Column-Free) ขนาดใหญ่ถึง 5,200 ตารางเมตร และเพดานสูงถึง 3 เมตร เพื่อสร้างความยืดหยุ่นแก่ผู้เช่าในการจัดสรรและออกแบบพื้นที่สำนักงานของตนเอง ใช้กระจกสะท้อนแสง Low-E มีคุณสมบัติป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ ส่งผลให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น และ กล้องวงจรปิด ระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
สนใจเช่าสำนักงาน ติดต่อที่ https://www.theparq.com/
- The PARQ Life เป็นแหล่งรวมร้านช้อป-ชิลแห่งใหม่ค่ะ มีทั้งร้านอาหาร เครื่องดื่มแบรนด์ดัง เช่น Peace – Oriental Teahouse, Sakae Shabu , Food Republic ศูนย์รวมอาหารอร่อยอีกมากมาย รวมทั้ง และคลับออกกำลังกายอย่าง Jetts Black
นอกจากนี้ ภายในโครงการยังมี Q Garden สวนลอยฟ้าขนาด 3,400 ตารางเมตร ที่ให้ความร่มรื่นจากพรรณไม้นานาชนิด และตกแต่งด้วยธารน้ำอย่างสวยงามค่ะ
3. The Forestias
ทำเล: ติดถนนบางนา-ตราด กม.7 (ใกล้เมกาบางนา)
มูลค่าการลงทุน: 9 หมื่นล้านบาท
เจ้าของโครงการ : บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
พื้นที่: 300 ไร่
สถานะ: คาดว่าแล้วเสร็จ 2565
The Forestias เป็นอาณาจักรเพื่อการใช้ชีวิตของทุกวัย ทุกไลฟสไตล์ขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วย โครงการที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบ ที่มีราคาเริ่มต้น 5.14 - 250 ล้านบาท/ ยูนิต ผืนป่าขนาดใหญ่กว่า 30 ไร่ ที่ใส่ใจ ให้ความสำคัญตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มปลูกเป็นเมล็ดและต้นกล้า รวมถึงพื้นที่ทำกิจกรรมและการใช้ชีวิตต่างๆ อีกมากมายค่ะ
ซึ่งภายในอาณาจักรของ The Forestias ประกอบไปด้วยโครงการต่างๆ ดังนี้
1. คอนโดมิเนียม แบรนด์ “ WHIZDOM ” แบบ high-rise จำนวน 3 อาคาร ตอบโจทย์คนวัยเริ่มต้นทำงาน วัยสร้างครอบครัว ครอบครัวใหม่ และคนรักสัตว์เลี้ยง มีแบบแปลนให้เลือก 7 แบบ ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 35 - 205 ตร.ม.
2. คอนโดมิเนียมแบบ low-rise ของ “ MULBERRY GROVE ” ที่มุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ จำนวน 6 อาคาร มีแบบแปลนให้เลือก 16 แบบ ขนาดตั้งแต่ 63 - 1,027 ตร.ม.
3.บ้านสไลต์คลัสเตอร์โฮม โดย “ MULBERRY GROVE ” ตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่หลากหลายเจเนอเรชั่น มีจำนวน 37 หลัง ขนาด 4-6 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 1,000 - 1,600 ตร.ม.
4.ที่พักอาศัยพร้อมมอบบริการดูแลตลอดชีวิต ของ “ The Aspen Tree ” สำหรับคนที่ต้องการวางแผนการใช้ชีวิตในระยะยาว อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป มีทั้งแบบ active living condominiums และ sky villa residences เป็นที่ที่พักอาศัย พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก การบริการอย่างครบครัน และการดูแลด้านสุขภาพจากผู้เชี่ยวชาญอย่างครบวงจร
4. ONE Bangkok
ทำเล: ติดถนนพระราม 4 และถนนวิทยุ (เดิมเป็นสวนลุมไนท์บาซาร์)
เจ้าของโครงการ : บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
มูลค่าการลงทุน: 120,000 ล้านบาท
พื้นที่: 104 ไร่ พื้นที่อาคารรวม 1.83 ล้านตารางเมตร
สถานะ : อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง
นับเป็นโครงการอสังหาฯ รวม10 อาคาร ของภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดแบบไม่เคยมีมาก่อนในไทยค่ะ ประกอบด้วย พื้นที่เชิงพาณิชยกรรมแบบผสม เป็นอาคารที่มีการประกอบกิจการหลายประเภทในหลังเดียวกัน ได้แก่ โรงแรม ที่อยู่อาศัย ร้านค้า พานิชกรรม ห้องประชุม สำนักงาน และที่จอดรถยนต์
และ ONE BANGKOK เป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการพัฒนาชุมชนแวดล้อมอย่าง LEED Neighborhood Development Platinum เปี่ยมไปด้วยศักยภาพในการดึงดูดบริษัทชั้นนำ นักท่องเที่ยว และคนไทย ด้วยอาคารสำนักงานเกรดเอ พื้นที่รีเทลชั้นนำ โรงแรมระดับลักชัวรี่ ที่พักอาศัย และพื้นที่ศูนย์กลางสำหรับกิจกรรมทางศิลปะและวัฒนธรรมที่เชื่อมต่อทั่วถึงกันทั้งโครงการ นับว่าเป็นแลนด์มาร์คครบวงจรระดับโลกแห่งใหม่น่าจับตามองมากๆ ค่ะ
5. Mega City Bangna
ทำเล: ติดถนนบางนา-ตราด และวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก
เจ้าของโครงการ : บริษัทสยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
มูลค่าการลงทุน: 67,000 ล้านบาท
พื้นที่: 400 ไร่ (150 ไร่สำหรับเฟสใหม่)
คาดว่าแล้วเสร็จ : 2565
หลังจากศูนย์การค้าที่ “เมกาบางนา” เปิดให้บริการในย่านบางนามากว่า 7 ปีแล้ว บนพื้นที่ 250 ไร่จากพื้นที่ทั้งหมด 400 ไร่ของบริษัทสยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ขณะนี้ถึงเวลายกระดับศูนย์การค้าแห่งนี้ให้เป็น เมืองแห่งกรุงเทพตะวันออก “เมกาซิตี้” โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ที่เป็นประกอบไปด้วย ศูนย์การค้าเมกาบางนา โรงแรม อาคารสำนักงาน โรงเรียน สวนสาธารณะ ที่อยู่อาศัย และแหล่งบันเทิง เมืองขนาดใหญ่สำหรับการใช้ชีวิตแบบครบวงจร สามารถรองรับผู้ใช้บริการได้มากถึง 250,000 คน นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือพัฒนาคอนโดมิเนียม 2 อาคาร จำนวน 1,300 ยูนิต กับบริษัท อารียาพรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
6. Bangkok Mall
ทำเลที่ตั้ง : ถนนเทพรัตน แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
( ถนนเทพรัตน ช่วงกิโลเมตรที่ 0-1 ตรงข้ามศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ตรงจุดตัดถนนบางนา-ตราด กับสุขุมวิท เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอุดมสุขและบางนา )
เจ้าของโครงการ : เดอะมอลล์กรุ๊ป
มูลค่าโครงการ : 50,000 ล้านบาท
พื้นที่โครงการ : เนื้อที่กว่า 100 ไร่ รวมพื้นที่โครงการกว่า 1,200,000 ตารางเมตร
เริ่มก่อสร้าง : พฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2561
คาดว่าแล้วเสร็จ : ภายในปี พ.ศ. 2566
โครงการ แบง ค็อก มอลล์ ( Bangkok Mall ) ศูนย์การค้าแห่งใหม่ระดับ World Class บนพื้นที่ 100 ไร่ มูลค่าการลงทุน 50,000 ล้านบาท นับเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของ เดอะมอลล์กรุ๊ป ที่จะพลิกโฉมให้ย่านบางนา กลายเป็น LANDMARK สำคัญของไทยได้อย่างแน่นอน เพราะจะเป็นศูนย์การค้าและแหล่งรวมความบันเทิงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วยค่ะ ปัจจุบันโครงการนี้ ยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าเปิดให้บริการได้ภายในปี พ.ศ. 2566
7. 101 True Digital Park
ทำเล: ติดถนน สุขุมวิท 101/1
เจ้าของโครงการ : MQDC และ True Corporation
มูลค่าการลงทุน: ไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท
พื้นที่: 43 ไร่
คาดว่าแล้วเสร็จ : ปี 2565 ( True digital park phase 2 )
เป็นโครงการ mixed-use ที่ตั้งเป้าหมายให้เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญแห่งหนึ่งในสุขุมวิทตอนปลายของกรุงเทพฯค่ะ และเป็นอาณาจักรของการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ที่มีทั้ง ที่อยู่อาศัย, ห้างสรรพสินค้า และสำนักงานไว้ด้วยกันค่ะ โดยภายใต้โครงการ 101 True Digital Park นี้ เกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง MQDC บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ True Corporation นั่นเอง และภายในโครงการนี้ ประกอบด้วย
- Condominium จำนวน 3 โครงการ รวมประมาณ 1,900 ยูนิต ประกอบด้วย Whizdom Connect Sukhumvit, Whizdom Essence Sukhumvit และ Whizdom Inspire Sukhumvit ( สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ )
- Community mall สำหรับใช้ชีวิต แบ่งออกเป็น Supermarket , 101 garden, 24 hour street, Hillside town, Sport club ( เปิดให้บริการ )
- สำนักงาน 3 อาคาร ได้แก่ Phoenix building, Griffin building และ Pegasus building เป็น Work space ที่จัดแบ่งเป็น office space, co-working space, event space และ innovation space กระจายตัวอยู่ทั้ง 3 อาคาร
ปัจจุบัน True digital park phase 2 ยังอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างค่ะ เป็นออฟฟิศรูปแบบดิจิทัลฮับที่เจาะกลุ่มผู้เช่าสตาร์ทอัพ Venture capital บริษัทต่างชาติ และหน่วยงานของรัฐ เป็นต้น โดยเป็น
- อาคารสำนักงานสูง 12 ชั้น ออฟฟิศ 9 ชั้น ศูนย์การค้าและพื้นที่จัดประชุม 3 ชั้น
- พื้นที่สำนักงานให้เช่า Grade A 30,000 ตร.ม. พร้อมฝ้าสูงโปร่ง 3.9 เมตร
- มีบริการฟรี 5G WiFi สำหรับสมาชิกและผู้เช่า
- ที่จอดรถระบบอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์ และเข้าอาคารด้วยระบบใบหน้าอัจฉริยะ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจเช่าพื้นที่ออฟฟิศ ติดต่อ Sole Agent CBRE โทร 02 119 2715 หรือ 089 939 6596 หรือ ลงทะเบียนวันนี้ เลือกตำแหน่ง https://bit.ly/TDPKNewDevelopment
8. The Grand Rama 9
ทำเลที่ตั้ง : พระราม 9 ตัดกับถนนรัชดาภิเษก
เจ้าของโครงการ : บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน)
มูลค่าโครงการ : ไม่สามารถระบุได้
พื้นที่โครงการ : กว่า 73 ไร่
อาณาจักรเดอะ แกรนด์ พระราม 9 เป็นแหล่งสถานที่ขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของไทยในย่าน NEW CBD ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 73 ไร่ ติดถนนพระราม 9 ตัดกับถนนรัชดาภิเษก ที่มีการก่อสร้างอาคารอย่างต่อเนื่องหลายปี ซึ่งประกอบด้วย
- CentralPlaza Grand Rama 9 เป็นโครงการแรกของ The Grand Rama 9 ที่เปิดให้ใช้บริการตั้งแต่ปลายปี 2554
- G Tower อาคารสำนักงานหน้าตาแปลกใหม่สำหรับคนไทย ก่อสร้างช่วงต้นปี 2558 แล้วเสร็จเมื่อปี 2560 ถูกแบ่งเป็นสองฝั่ง ได้แก่ North wing และ South wing มีพื้นที่ทั้งอาคารรวมกว่า 134,000 ตารางเมตร มีสองผู้เช่าหลัก ได้แก่กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต และธนาคารไทยพาณิชย์ ที่หลายๆ แผนกไม่ได้อยู่รัชโยธิน
- The 9th Towers เป็นอาคารสำนักงาน แบ่งเป็น 2 อาคารย่อย มีพื้นที่รวมทั้งสองอาคารกว่า 130,000 ตารางเมตร
- Unilever House พื้นที่ทั้งอาคารรวม 46,000 ตารางเมตร ( สร้างเสร็จ เมษายน ปี 2560 )
- Belle Grand Rama 9 เป็นคอนโดมิเนียมทั้งหมด 8 อาคาร มีห้องทั้งหมด 1,991 ห้อง รวมพื้นที่กว่า 350,000 ตารางเมตร ด้านล่างของอาคารเป็นโซนร้านค้า ร้านอาหาร และซูเปอร์มาร์เก็ต ในชื่อ Restaurants & Shoppes at Belle ค่ะ
- New World Grand Rama 9 Bangkok Hotel โรงแรมในระดับ 4 ดาว มีจำนวนห้องให้บริการมากกว่า 285 ห้อง มีพื้นที่รวมกว่า 32,000 ตารางเมตร ขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2565
- Super Tower อาคารสูงถึง 615 เมตร จำนวนชั้น 125 ชั้น ที่ตั้งเป้าเพื่อเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครและอาเซียน โดยใช้ระยะก่อสร้าง 6 ปี แถลงการณ์เมื่อปี พ.ศ.2560 นั้น ปัจจุบันปี 2564 ยังระหว่างทบทวนแผนการลงทุนโครงการใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน คาดว่าจะสรุปความชัดเจนได้ภายในปี 2565 นี้ค่ะ บ้างก็ว่ายกเลิกแล้ว แต่หากมีความคืบหน้า Genie จะมาอัพเดทรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งค่ะ แต่ที่แน่ๆ ระหว่างที่รอความชัดเจน ทางโครงการได้ใช้พื้นที่นี้ แปรสภาพเป็นสวนผักกลางเมืองในรูปแบบ CSR ผสมกับ SE (ธุรกิจเพื่อสังคม) ไว้เพื่อเป็น G- Garden หรือพื้นที่อาหารปลอดภัยและพื้นที่ศึกษาเรียนรู้การทำเกษตรในเมือง นั่นเองค่ะ
9. Dusit Central Park
ทำเล: ติดถนนพระราม 4 (ใกล้ MRT สถานีสีลม)
เจ้าของโครงการ : บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
มูลค่าการลงทุน: 46,000 ล้านบาท
พื้นที่: 23 ไร่ พื้นที่ใช้สอยรวม 400,000 ตรม.
แผนเปิดให้บริการ: 2566
ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เป็น Mage Project อีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่เกิดจากความร่วมมือในการพัฒนาโครงการระหว่าง กลุ่มดุสิตธานี และเซ็นทรัลพัฒนา ลักษณะโครงการเป็นแบบ mIxed-use รวมมูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 23 ไร่ ตรงหัวมุมถนนสีลมตัดพระราม 4 ทางเจ้าของโครงการการันตีว่า ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เป็นโครงการเดียวที่มองวิวสวนลุมพินีแบบพาโนรามิค 100% พร้อมรูฟพาร์ค 7 ไร่เชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวธรรมชาติ 360 ไร่อย่างลงตัว ยกระดับการใช้ชีวิตเมืองให้ใกล้ชิดธรรมชาติเทียบเมืองชั้นนำระดับโลกเลยทีเดียวค่ะ
เป็นยังไงบ้างคะ กับ 9 เมกะโปรเจค ที่นำมาอัพเดทให้ทุกท่านได้ทราบกัน หวังงว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ ส่วนตัว Genie ประทับใจหลายโครงการค่ะ เพราะต่างตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ มีจุดเด่นและประโยชน์ใช้สอยที่แตกต่างกัน อย่างเช่น โครงการ The Forestias ที่มาพร้อมแนวคิดโครงการที่สร้างพื้นที่พักอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตที่มีเชื่อมโยงระดับครอบครัวอย่างแท้จริง โดยคนที่มีญาติพี่น้องเยอะเป็นครอบครัวใหญ่ ก็สามารถซื้อบ้าน คอนโดอยู่ในโครงการนี้ ได้ใกล้ชิดกันแต่ยังมี space ความเป็นส่วนตัว แถมมีพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันภายในโครงการอีกมากมาย รวมทั้งได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ พื้นที่สีเขียว ไม้ให้ร่มเงาผืนใหญ่อีกต่างหาก ถือว่าเป็น mega project ที่น่าสนใจมากค่ะ แล้วคุณหล่ะคะ ประะทับใจโครงการใดมากที่สุด